ให้นักเรียนทำรายงานเรื่อง "การรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557" ทำลงในบล็อกของนักเรียนเอง และให้นักเรียนส่งรายงาน ให้ตรงห้องเรียนของนักเรียนด้วยภายใน 30 มิถุนายน 2557 วิชาการปกครองของไทย ระดับชั้น ม.4: ม.4/11 แสดงบทความที่นี่ค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555

ม.4/11 แสดงบทความที่นี่ค่ะ

24 ความคิดเห็น:

  1. นานมาแล้ว ยังมี ใครคนหนึ่ง รักลึกซึ้ง ห่วงใย ไม่จางหาย
    รักไม่เลิก รักไม่หมด จากหัวใจ รักกว่าใคร รักสุดใจ ของใครกัน

    ยามแบเบาะ อดนอน ทนกล่อมเกลี้ยง กล่อมให้นอน ด้วยเสียง ดุจสวรรค์
    ทั้งอึฉี่ รดที่นอน เช็ดทุกวัน ด้วยมือท่าน อัศจรรย์ มือมารดา

    หนูโตขึ้น เอาใจยาก ไม่อยากบ่น เข็นหนูจน ไปโรงเรียน เพียรศึกษา
    พร่ำสอนให้ เอาใจใส่ ท่องตำรา เมื่อเติบใหญ่ วันหน้า จักได้ดี

    จนจบการ ศึกษา ปริญญาบัตร แม่ก็จัด รถให้ขับ สมศักดิ์ศรี
    อยากเรียนต่อ เอ้า! ก็ได้ เพิ่มดีกรี บินลัดลี่ สู่เมืองนอก โก้หยอกใคร

    ไม่รู้หรอก เงินที่ใช้ แม่เหนื่อยนัก ไม่รู้หรอก มือฟูมฟัก จนเติบใหญ่
    ไม่รู้หรอก แม่อดทน กว่าผู้ใด ไม่รู้หรอก เพื่อลูกไซร้ แม่ตายแทน

    กว่าจะรู้ ว่าพระคุณ นั้นยิ่งใหญ่ กว่าจะเห็น ในหัวใจ ยากสุดแสน
    กว่าจะซึ้ง กว่ารู้สึก อยากตอบแทน กว่าเห็นค่า ว่าอ้อมแขน แม่สุดดี
    นาย ธนาธิป วงศ์กระจ่าง ม.4/11 เลขที่1

    ตอบลบ
  2. หญิงคนหนึ่ง คนที่เรา เรียกว่าแม่
    หญิงคนที่ รักเราแท้ ไม่แปรผัน
    หญิงคนที่ รักเรา เท่าชีวัน
    หญิงคนนั้น ให้เราเกิด กำเนิดมา
    หญิงคนนี้ ที่เราควร จะกราบไหว้
    หญิงคนที่ เราทั้งหลาย ควรฝันหา
    หญิงคนนั้น คนที่เรา เรียกมารดา
    หญิงคนที่ เสียน้ำตา ตอนคลอดเรา
    วันเราเกิด หญิงคนนี้ ที่ต้องเจ็บ
    วันเราเจ็บ เขายิ่งเจ็บ กว่าหลายเท่า
    วันเราสุข หญิงคนนี้ สุขกว่าเรา
    วันเขาเศร้า แล้วเราไป อยู่ไหนกัน
    คิดบ้างเถิด ลูกทุกคน จงได้คิด
    คิดบ้างเถิด ใครที่ผิด ที่แปรผัน
    คิดบ้างเถิด เราหรือเขา ที่ลืมกัน
    คิดบ้างเถิด ใครลืมวัน ที่ผ่านมา
    เราต่างหาก ที่มัวเมา จนลืมคิด
    เราต่างหาก เราที่ผิด ไม่ไปหา
    เราต่างหาก ที่ไม่เคย มีเวลา
    เราต่างหาก ที่มันบ้า หลงลืมตัว
    กลับไปเถิด กลับไป เยี่ยมแม่บ้าง
    อย่าให้ท่าน ต้องอ้างว้าง ใจสลัว
    อย่าหลงไฟ หลงแสงสี จนลืมตัว
    อย่าเมามัว จนลืมแม่ ผู้รักเรา….
    นางสาว สุนัทชา เพ็ชรสุข ม4/11 เลขที่ 50

    ตอบลบ
  3. ความรักที่ยิ่งใหญ่จากใครคนหนึ่ง ซึ่งฉันได้สัมผัสถึงความรัก และไออุ่นอ้อมกอดของผู้หญิงที่ฉันเรียกเธอว่า แม่ เคยฟังเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง จากอาจารย์คนหนึ่งซึ่งท่านเล่าว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งอยากมีลูกมากๆ และยังบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่เธอทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอมีลูก แต่หนทางที่เธอได้รับผลนั้นไม่ได้จบลงได้สวย เพราะมีชีวิตหนึ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ท่านเล่าว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้หญิงสาวคนนั้นมีลูก แต่พอเธอไปฝากครรภ์หมอได้บอกกับเธอว่าลูกของเธอมีโอกาสรอดแค่50:50และเธออาจจะตายด้วยเมื่อครบ8เดือน เธอเกิดอาการปวดท้องอย่างแต่เธอยังมีสติอยู่ หมอได้ถามเธอว่า หมอสามารถช่วยได้แค่คนเดียวเท่านั้นหมอให้เลือกระหว่างเธอที่จะมีชีวิตอยู่หรือจะให้อีกหนึ่งชีวิตเกิดมา ด้วยความเป็นแม่ แม่ได้พูดกับหมอว่าให้ลูกของเธอคลอดมาเธอยอมตายแทนได้ เธออยากให้หมอช่วยชีวิตลูกของเธอ เพราะความเป็นแม่ของเธอมีความรักที่ยิ่งใหญ่ยอมเสียสละเพื่อลุกให้เกิดมาแต่แล้ว หมอก็ช่วยเธอและลูกของเธอไม่ได้ และทั้งสองคนแม่ลูก เสียชีวิตลง นี่คือหนึ่งเหตุผลที่ฉันเลือกเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเพราะ แม่คือผู้ให้ และเสียสละทุกอย่างเพื่อลูกชีวิตนี้ของแม่ยังให้ลูกได้ ชีวิตนี้ที่เราได้เกิดมาเราควรรักแม่ เชื่อฟังพ่อแม่เราควรตอบแทนพ่อแม่เพราะแม่คือผู้ให้ชีวิต หากมีโอกาสก็บอกแม่ซะตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ดีกว่าตอนที่ กราบท่านเมื่อดินกลบหน้าท่าน
    ผู้เขียน นางสาวกิ่งแก้ว ศัลศาลา ม.4/11 เลขที่ 3

    ตอบลบ
  4. หญิงคนหนึ่ง คนที่เรา เรียกว่าแม่
    หญิงคนที่ รักเราแท้ ไม่แปรผัน
    หญิงคนที่ รักเรา เท่าชีวัน
    หญิงคนนั้น ให้เราเกิด กำเนิดมา
    หญิงคนนี้ ที่เราควร จะกราบไหว้
    หญิงคนที่ เราทั้งหลาย ควรฝันหา
    หญิงคนนั้น คนที่เรา เรียกมารดา
    หญิงคนที่ เสียน้ำตา ตอนคลอดเรา
    วันเราเกิด หญิงคนนี้ ที่ต้องเจ็บ
    วันเราเจ็บ เขายิ่งเจ็บ กว่าหลายเท่า
    วันเราสุข หญิงคนนี้ สุขกว่าเรา
    วันเขาเศร้า แล้วเราไป อยู่ไหนกัน
    คิดบ้างเถิด ลูกทุกคน จงได้คิด
    คิดบ้างเถิด ใครที่ผิด ที่แปรผัน
    คิดบ้างเถิด เราหรือเขา ที่ลืมกัน
    คิดบ้างเถิด ใครลืมวัน ที่ผ่านมา
    เราต่างหาก ที่มัวเมา จนลืมคิด
    เราต่างหาก เราที่ผิด ไม่ไปหา
    เราต่างหาก ที่ไม่เคย มีเวลา
    เราต่างหาก ที่มันบ้า หลงลืมตัว
    กลับไปเถิด กลับไป เยี่ยมแม่บ้าง
    อย่าให้ท่าน ต้องอ้างว้าง ใจสลัว
    อย่าหลงไฟ หลงแสงสี จนลืมตัว
    อย่าเมามัว จนลืมแม่ ผู้รักเรา….
    นางสาวฐานิกา จันทคาส เลขที่20 ชั้นม4/11

    ตอบลบ
  5. พระคุณแม่นั้นยิ่งใหญ่หาใดเท่า
    ถนมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงเราเท้าเท่าหอย
    มาบัดนี้เติบใหญ่อย่าได้คอย
    ให้ท่านหงอยเลี้ยงดูผู้มีคุณ
    ในวัยเยาว์เฝ้าถนมกล่อมฟูมฟัก
    ไม่ได้พักซักผ้าอ้อมกล่อมคุณหนู
    ปวดท้องร้องฉีอึราดคอยเฝ้าดู
    สั่งสอนหนูเป็นเด็กดีเมื่อพบเจอ
    คอยพร่ำสอนเมื่อทำผิดไม่คิดโกรธ
    แม่ไม่โทษให้อภัยลูกได้เสมอ
    เป็นเด็กดีเมื่อเติบใหญ่ไม่ละเมอ
    อย่าพลั้งเผอคิดการใหญ่ไปโกงเขา
    ลูกเจ็บปวยแม่คอยเฝ้าข้าวอาหาร
    ทั้งการงานแม่ไม่เห็นสำคัญเท่า
    ลูกเติบใหญ่แม่เป็นไข้ไม่ทุเลา
    ลูกไม่เฝ้าบอกติดงานฉันอยู่ไกล
    ยามลูกมีทุกข์โศกบนโลกเศร้า
    แม่คอยเฝ้าเยียวยารักษาให้
    จะตกงานหรือชอกช้ำระกำใจ
    แม่คอยได้ปลอบโยนพ้นทุกข์มา
    พระคุณแม่นั้นเกินกว่าหาไดเอย
    ท่านไม่เคยหวังสิ่งไดจากลูกหนา
    เฝ้าถนมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกมา
    ปรารถนาให้ลูกนั้นเป็นคนดี

    นาย พัสกร พานิช ชั้น ม.4/11 เลขที่ 16

    ตอบลบ
  6. แม่เป็นมิตรใกล้ชิตกว่าใครอื่น มิตรแสนมื่นมิเทียบเปรียบท่านได้
    พระคุณหลากมากยิ่งกว่าสิ่งใด เกิดไศลล้นฟ้าท่วมธาตรี
    เรือนที่เราเนาในได้อบอุ่น เพราะท่านจุนเจือจึงซึ่งสุขศรี
    มิตรใดใดในหล้าบรรดามี จะหาที่เทียบกันนั้นไม่เลย
    เมื่อลูกเกิดกายแม่เจ็บเหมือนเสียบศร เมื่อลูกมรณ์แม่เจ็บใจเหมือนใครหยาม
    ตอนลูกอยู่แม่ช่วยชูให้เด่นงาม เห็นลูกทรามแม่ห่วงนักคอยตักเตือน
    หากลูกทุกข์แม่พลอยทุกข์ไปกับเจ้า ลูกหายเศร้าแม่สุขใจใครจักเหมือน
    แม่กับลูกผูกพันจิตมิตในเรือน เป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งแม่มิตรแท้เอย
    มีแม่อยู่ในเรือนเหมือนเพื่อนแก้ว รักลูกแน่วแน่มิห่างจางเหือดหาย
    ยามลูกทุกข์ทุกข์ด้วยช่วยผ่อนคลาย ลูกสบายสุขเกษมแม่เปรมปรีดิ์
    ลูกจะไปหนใดใจแม่ใจแม่ช่วย เหมือนไปด้วยคุ้มครองป้องเกศี
    อวยพรให้ลูกพิพัฒน์สวัสดี ทุกวันมีแม่เป็นเพื่อนอุ่นเรือนใจ

    นายชยานันต์ แก้วมหากาฬ ม.4/11 เลขที่ 23

    ตอบลบ
  7. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  8. กลอนวันแม่
    ….. กลอนวันแม่ …..

    จากลูกถึงแม่



    “ลูกรักแม่” แน่แท้ มิแปรผัน
    กี่คืนวัน ผันผ่านไป ใช่เมินเฉย
    แม่จ๋า แม่ แม่รู้ไหม ลูกไม่เคย
    ลืมแม่เลย แม้น้อยนิด ไม่คิดทำ

    เพราะรักที่ แม่มอบให้ นั้นใหญ่ยิ่ง
    ไม่เคยทิ้ง ยามลูกคว้าง ย่างถลำ
    เปี่ยมเมตตา การุณ คอยหนุนนำ
    แม่คือสาย น้ำาเย็นฉ่ำ ฉ่ำใจกาย

    พระคุณแม่ แผ่อยู่ใน หัวใจลูก
    รักแม่ผูก ลูกแน่นหนา กว่าสิ่งไหน
    รักแม่เทียบ เปรียบเสมือน เป็นเงื่อนตาย
    ถึงห่างหาย แค่กายห่าง ใช่ห่างใจ

    นายวิทวุฒิ ชุมอินทร์ เลขที่ 24 ม.4/11

    ตอบลบ
  9. ******* กลอนวันแม่ ********
    แม่คือพระผู้สร้างให้กำเนิด
    ผู้ประเสริฐก่อเกิดลูกปลูกความฝัน
    ถักทอรักฟูมฟักเนิ่นนานวัน
    จนลูกนั้นเติบใหญ่จนได้ดี
    เป็นดั่งเทียนยอมเผาตนจนมอดไหม้
    ยังแสงให้ลูกเห็นทางไม่ห่างหนี
    แสงอาทิตย์ส่องทางเดินเนิ่นนานปี
    มารดานี้ส่องสว่างทางชีวัน
    “แม่”จึงเป็นผู้สร้างทางชีวิต
    คอยลิขิตแต่งแต้มหลากสีสัน
    จากผ้าขาวผืนขาดเมื่อวานวัน
    กลับเปรผันเป็นผ้างามยามเติบโต

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

      ลบ
  10. ความรู้สึกที่มีต่อนั้นแม่นั้นมันมีความรู้สึกที่มหาศาลที่ไม่สามรถจะอธิบายได้อย่างมีเหตุมีผล บางคนนั้นแค่พูดว่า ผมรักแม่ หนูรักแม่ แต่คำพูดนั้นไม่สามรถพิสูจน์ได้เท่ากับการกระทำเพราะการกระทำเท่านั้นที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเรารักแม่ แม่ให้กำเนิดเรามาก็ยากแสนที่จะลำบาก เมื่อเราโตก็ยิ่งลำบากอย่างยิ่งที่ทำให้เราได้โตถึงเพียงนี้ คนที่เราให้ความสำคัญจริงๆคนที่เราให้ใจจริงๆๆไม่ครวที่จะเป็นคนอื่นมากกว่าแม่เรา น้ำนมที่แม่ให้เรากินนั้นล้วนมาจากความรักทั้งนั้น นี้คือแม่ ความเป็นแม่ผู้ที่รักเราที่สุด

    ตอบลบ
  11. กลอนวันแม่

    พระคุณแม่ยิ่งใหญ่กว่าใครผอง
    แม่อุ้มท้องลูกรักนานหนักหนา
    ให้กำเนิดเฝ้าเลี้ยงดูตลอดมา
    ในโลกาหาใครมาเทียมทัน
    วันลูกเกิดอกแม่เจ็บเหมือนเหน็บศร
    แต่ก็ซ่อนความดีใจไม่เหหัน
    น้ำตาแห่งความดีใจไหลเร็วพลัน
    สุดตื้นตันดวงใจได้ลูกยา
    นมสองเต้าของแม่แน่แนบจิต
    แม่อุทิศเลือดเนื้อเพื่อลูกหนา
    น้ำนมแม่กลั่นจากอกยกออกมา
    ให้ลูกยาดื่มด่ำอย่างหนำใจ

    น.ส.ศิรินภา สุประดิษฐ์ เลขที่21 ม.4/11 ส่งงานค่ะ

    ตอบลบ
  12. กลอนวันแม่ ....................
    .............

    แม่ของฉันคือผู้ให้ใหญ่หลวงยิ่ง
    ท่านบันดาลทุกสิ่งปรารถนา
    ลูกขอตั้งจิตมั่นกตัญญุตา
    ทดแทนคุณมารดาผู้ปรานี
    แม่จ๋าแม่เมื่อลูกเยาว์เฝ้าสอนสั่ง
    ลูกพร้อมพรั่งทั้งกายใจสุขี
    แม้มิมีแม่โอบอุ้มคุ้มชีวี
    ลูกคนนี้จะเป็นเช่นใดกัน
    ด้วยแม่ให้ความสุขคลายทุกข์ร้อน
    เอื้ออาทรหาใครเยี่ยมเทียมแม่ฉัน
    พระคุณแม่นั้นล้ำค่ากว่าจำนรรจ์
    ทุกคืนวันลูกคำนึงถึงคุณา
    แม่จ๋าแม่วันนี้ลูกเติบใหญ่
    ยืนหยัดได้มั่นคงแน่แล้วแม่จ๋า
    ขอดูแลแม่ดั่งแม่เลี้ยงลูกมา
    รักบูชาชนนีแสนดีเอย

    นาย ยุทธวีร์ พรหมสีลาย ม.4/11 เลขที่ 43

    ตอบลบ
  13. รัก คำไหนยิ่งใหญ่กว่ารักแม่

    รัก จริงแท้จะหาไหนไม่มีเหมือน

    รัก ของแม่จริงใจไม่บิดเบือน

    รัก ของแม่คอยเตือนให้ลูกดี

    แม่ คำนี้มีค่าเกินกว่าพูด

    แม่ เปรียบฑูตเชื่อมความรักเชื่อมศักดิ์ศรี

    แม่ อบรมบ่มนิสัยให้ลูกดี

    แม่ คำนี้ลูกรักจะตอบแทน

    นาย ณภัทร ทองเกิด ม.4/11 เลขที่38

    ตอบลบ
  14. โอ้ละเห่-ฟูมฟัก...ด้วยรักเจ้า
    เมื่อยามเยาว์แม่ถนอมกล่อมจอมขวัญ
    เอื้ออาทร-ร้อนร้าย แม่คลายพลัน
    ภัยกางกั้นแม่กล้าฟันฝ่าไป

    หวังเพียงแค่ "คนดี" ที่แม่รัก
    จะมีหลักอนาคตที่สดใส
    ยอมลำบากยากเย็นทุกข์เข็ญใจ
    ด้วยสายใยรักแน่น ไม่แคลนคลอน

    แม่จ๋า...ล้านความรักจากใครเขา
    หลอมรวมเข้าอาจแกร่งยิ่งดั่งสิงขร
    แต่... "รัก" หญิงที่ขนานนาม "มารดร"
    แกร่งแน่นอน..กว่าสิ่งใดในโลกา

    แม่จ๋า...แม่คือหญิงที่ยิ่งใหญ่
    เหนือเทพไท้ ทั้งสามภพจบทั่วหล้า
    พระคุณล้นเกินรำพันจำนรรจา
    พรรณนาเทียบได้...ไม่เพียงพอ

    จะหาทิพย์จากสวรรค์ ณ ชั้นสรวง
    กรองเป็นพวงแทนพลอย...ทำสร้อยศอ
    หรือหยิบดาวพราวฟ้ามาทักทอ
    แทนป่านปอ....เป็นของขวัญ...นั้นด้อยไป

    โอ้ละเห่..ที่ฟูมฟัก "ลูกรักแม่"
    สัญญาแน่..เป็นคนดีมิเผลอไผล
    เพื่อทดแทนคุณความรัก...จากดวงใจ
    กราบด้วย "มาลัยอักษรา" บูชาเอย
    นายพัทธพล พานิช ม4/11 เลขที่30

    ตอบลบ
  15. กลอน พระคุณแม่
    พระคุณแม่เลิศล้ำเหนือกำหนด
    นมทุกหยดของแม่มีความหมาย
    แม่อุตส่าห์เลี้ยงดูทุ่มเทกาย
    ส่งเสียให้ได้เรียนเพียรศึกษา
    แม่เป็นหญิงที่ดีในใจลูก
    แม่พันผูกปลูกฝังให้รักษา
    ยามเจ็บทุกข์ได้ยากคอยป้อนยา
    คอยสรรหาสิ่งดีดีให้ตัวเรา
    ถึงเวลาที่ควรตอบแทนท่าน
    เราต้องหมั่นเอาใจท่านให้หนักหนา
    คำ คำนี้ลูกจำได้ตั้งแต่เกิดมา
    สุดท้ายหนาคือคำว่า "แม่จ๋า" เอย

    ตอบลบ
  16. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  17. มะลิหอมน้อมวางข้างข้างตัก
    กรุ่นกลิ่น "รัก" บริสุทธิ์ผุดผ่องใส
    แทนทุกคำทุกถ้อยร้อยจากใจ
    เป็นมาลัย "กราบแม่" พร้อมน้อมบูชา

    กี่พระคุณจากใครอื่นนับหมื่นแสน
    อาจทนแทนเปรยเปรียบเทียบคุณค่า
    แต่พระคุณ"หนึ่งหยดน้ำนมมารดา"ทั้งสามภพจบหล้า...หาเทียมทัน

    ลูกไม่อาจเอ่ยแสดงแถลงถ้อย
    หรือเรียงร้อยพจนามาเสกสรรค์
    เพื่อบรรยายพระคุณนี้ที่ "อนันต์"
    จึงตั้งมั่น "กตัญญุตา" ตลอดไป

    หนึ่งคำ "รัก" ลูกรักแม่ แม้ค่าน้อย
    ต่างเพชรพลอย ตีราคาค่ามิได้
    แต่แม่จ๋า... "รักที่หนึ่ง" ของหัวใจ
    มิใช่ใคร "ลูก รัก แม่" แน่นิรันดร์

    BY: นายพงศธร ศรีตั้งวงศ์ เลขที่ 29 ม.4/11

    ตอบลบ
  18. คำสั้นๆที่เรียกว่า แม่ หรือ มารดา เป็นคำที่เรียกผู้ให้กำเนิด และโดยทั่วไปก็คือ แม่ที่เป็นบุคคลสำคัญของครอบครัวแบบ พ่อ แม่ และ ลูก แม่
    เป็นผู้ให้กำเนิด ผู้มีพระคุณต่อลูก คอยดูแลเอาใจใส่ลูก และสั่งสอนลูกให้เป็นคนดี ถือได้ว่าเป็นครูคนแรกของลูกๆ นั้นเป็นความรักที่แท้จริง
    จากแม่ที่มีให้ลูก หาความรักนี้จากที่ไหนไม่ได้ นอกจาก “ผู้เป็นแม่”

    แม่ หรือว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วและให้กำเนิดลูก และลูกก็จะเรียกผู้หญิงคนนั้นว่า “แม่” โดยทั่วไปแล้ว คำว่าแม่ แต่ละภาษามักจะใช้อักษร “ม” เหมือนกันหมด เช่น คนไทย จะเรียกผู้ที่ให้กำเนิดว่า “แม่” ภาษาอังกฤษ จะเรียกผู้ที่ให้กำเนิดว่า “มาเธอร์ (Mother)” หรือ “มัม (Mom)”
    ภาษาสันสกฤต จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “มารดา” ภาษาบาลี จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “มาตา” คนจีน จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “ม่าม้า” (แต้จิ๋ว) จีนกลางอ่านว่า มาหมะ (妈妈) คนแขก จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “มามี้” คนฝรั่งเศส จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “มามอง” คนญี่ปุ่น จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “โอก้าซัง”
    คนเกาหลี เรียกผู้ให้กำเนิดว่า “ออมม่า” คนเวียดนาม เรียกผู้ให้กำเนิดว่า “แม๊” ออกเสียงใกล้เคียงภาษาไทยมาก

    นางสาวสุวรรณา นิลสุพรรณ เลขที่ 19 ม.4/11

    ตอบลบ
  19. คำสั้นๆที่เรียกว่า แม่ หรือ มารดา เป็นคำที่เรียกผู้ให้กำเนิด และโดยทั่วไปก็คือ แม่ที่เป็นบุคคลสำคัญของครอบครัวแบบ พ่อ แม่ และ ลูก แม่
    เป็นผู้ให้กำเนิด ผู้มีพระคุณต่อลูก คอยดูแลเอาใจใส่ลูก และสั่งสอนลูกให้เป็นคนดี ถือได้ว่าเป็นครูคนแรกของลูกๆ นั้นเป็นความรักที่แท้จริง
    จากแม่ที่มีให้ลูก หาความรักนี้จากที่ไหนไม่ได้ นอกจาก “ผู้เป็นแม่”

    แม่ หรือว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วและให้กำเนิดลูก และลูกก็จะเรียกผู้หญิงคนนั้นว่า “แม่” โดยทั่วไปแล้ว คำว่าแม่ แต่ละภาษามักจะใช้อักษร “ม” เหมือนกันหมด เช่น คนไทย จะเรียกผู้ที่ให้กำเนิดว่า “แม่” ภาษาอังกฤษ จะเรียกผู้ที่ให้กำเนิดว่า “มาเธอร์ (Mother)” หรือ “มัม (Mom)”
    ภาษาสันสกฤต จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “มารดา” ภาษาบาลี จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “มาตา” คนจีน จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “ม่าม้า” (แต้จิ๋ว) จีนกลางอ่านว่า มาหมะ คนแขก จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “มามี้” คนฝรั่งเศส จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “มามอง” คนญี่ปุ่น จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า “โอก้าซัง”
    คนเกาหลี เรียกผู้ให้กำเนิดว่า “ออมม่า” คนเวียดนาม เรียกผู้ให้กำเนิดว่า “แม๊” ออกเสียงใกล้เคียงภาษาไทยมาก

    นางสาวสุวรรณา นิลสุพรรณ เลขที่ 19 ม.4/11

    ตอบลบ
  20. มะลิหอมน้อมวางข้างข้างตัก
    กรุ่นกลิ่น "รัก" บริสุทธิ์ผุดผ่องใส
    แทนทุกคำทุกถ้อยร้อยจากใจ
    เป็นมาลัย "กราบแม่" พร้อมน้อมบูชา

    กี่พระคุณจากใครอื่นนับหมื่นแสน
    อาจทนแทนเปรยเปรียบเทียบคุณค่า
    แต่พระคุณ"หนึ่งหยดน้ำนมมารดา"ทั้งสามภพจบหล้า...หาเทียมทัน

    ลูกไม่อาจเอ่ยแสดงแถลงถ้อย
    หรือเรียงร้อยพจนามาเสกสรรค์
    เพื่อบรรยายพระคุณนี้ที่ "อนันต์"
    จึงตั้งมั่น "กตัญญุตา" ตลอดไป

    หนึ่งคำ "รัก" ลูกรักแม่ แม้ค่าน้อย
    ต่างเพชรพลอย ตีราคาค่ามิได้
    แต่แม่จ๋า... "รักที่หนึ่ง" ของหัวใจ
    มิใช่ใคร "ลูก รัก แม่" แน่นิรันดร์
    นาย ณัฐพล แสงจัทร์ เลขที่10

    ตอบลบ
  21. พระคุณแม่นั้นยิ่งใหญ่หาใดเท่า
    ถนมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงเราเท้าเท่าหอย
    มาบัดนี้เติบใหญ่อย่าได้คอย
    ให้ท่านหงอยเลี้ยงดูผู้มีคุณ
    ในวัยเยาว์เฝ้าถนมกล่อมฟูมฟัก
    ไม่ได้พักซักผ้าอ้อมกล่อมคุณหนู
    ปวดท้องร้องฉีอึราดคอยเฝ้าดู
    สั่งสอนหนูเป็นเด็กดีเมื่อพบเจอ
    คอยพร่ำสอนเมื่อทำผิดไม่คิดโกรธ
    แม่ไม่โทษให้อภัยลูกได้เสมอ
    เป็นเด็กดีเมื่อเติบใหญ่ไม่ละเมอ
    อย่าพลั้งเผอคิดการใหญ่ไปโกงเขา
    ลูกเจ็บปวยแม่คอยเฝ้าข้าวอาหาร
    ทั้งการงานแม่ไม่เห็นสำคัญเท่า
    ลูกเติบใหญ่แม่เป็นไข้ไม่ทุเลา
    ลูกไม่เฝ้าบอกติดงานฉันอยู่ไกล
    ยามลูกมีทุกข์โศกบนโลกเศร้า
    แม่คอยเฝ้าเยียวยารักษาให้
    จะตกงานหรือชอกช้ำระกำใจ
    แม่คอยได้ปลอบโยนพ้นทุกข์มา
    พระคุณแม่นั้นเกินกว่าหาไดเอย
    ท่านไม่เคยหวังสิ่งไดจากลูกหนา
    เฝ้าถนมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกมา
    ปรารถนาให้ลูกนั้นเป็นคนดี
    นาย พีระวิทย์ ไทยกุล ม.4/11 เลขที่ 41

    ตอบลบ
  22. ทีฆายุโก โหตุ มหาราชินี

    สิบสองสิงหาคมอุดมฤกษ์
    พระเกียรติเกริกงามสง่าด้วยราศี
    เสียงแซ่ซ้องเพราะบุญญาบารมี
    ราชินีดั่งฝนหล่นโปรยปราย

    คือศูนย์รวมดวงใจไทยทั้งหล้า
    พระเมตตามีให้ไม่เหือดหาย
    ตั้งโครงการต่างต่างอย่างมากมาย
    งามเฉิดฉายเจิดจ้าหาใดปาน

    สิริกิต์ สิริโฉม ดุจโคมส่อง
    พระเกียรติก้อง เกริกไกร แผ่ไพศาล
    ขอทรงพระเจริญ ตราบเนิ่นนาน
    ทรงสำราญ เป็นมิ่งขวัญ นิรันดร์เทอญ


    ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
    ข้าพระพุทธเจ้า

    วิรภัทร์ ชยุตสาหกิจ ม 4/11 เลขที่ 34

    ตอบลบ
  23. น้ำใจแม่
     
    น้ำใดว่าสดใสสะอาด
    น้ำสระอโนดาดยังไม่สะอาดเท่าน้ำใจแม่
    เพราะเป็นน้ำกลั่นจากรักแท้
    จากยอดดวงใจแม่ที่มอบให้แด่ลูกยา
     
    น้ำทะเลยังมีขึ้นมีลง
    น้ำใจแม่มั่นคงซื่อตรงอยู่ทุกเวลา
    น้ำฝนยังตกในบางครา
    แต่น้ำใจมารดา มีให้ตลอดไป
     
    น้ำตาลใส่น้ำผึ้ง
    ยังไม่หวานซึ้งเท่าน้ำนมมารดา
    จากเลือดในอกกลั่นด้วยความเสน่หา
    หล่อเลื้ยงลูกมาจนเจริญวัย
     
    หยาดน้ำฟ้ายามต้องแสงตะวัน
    ช่างงามเฉิดฉันท์มีสีรุ้งพร่างพราย
    แต่ไม่งามเท่าน้ำหล่อเลี้ยงดวงนัยน์
    ที่แลดูห่วงใยในบุตรธิดา
     
    อาจหยิบรุ้งใส่ในฝ่ามือ
    และอาจถือไปทั่วหล้า
    แต่ไม่อาจพร่ำพรรณนา
    ถึงพระคุณมารดาให้หมดได้เลย

    วริษฐา ตะนุสะ ม.4/11 เลขที่ 12

    ตอบลบ